UV คืออะไร?
ทำไมการติดฟิล์มจำเป็นต่อการปกป้องคุณ
รังสี UV คือ อะไร ?
รังสี UV หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสีเหนือม่วง เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่อยู่ในช่วงความยาวคลื่นที่สั้นกว่าแสงที่ตามองเห็น แต่ยาวกว่ารังสีเอกซ์อย่างอ่อน มีความยาวคลื่นประมาณ 100-400 นาโนเมตร ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
รังสี UV มีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ โดยแหล่งกำเนิดหลักคือดวงอาทิตย์ และยังมีแหล่งกำเนิดเทียมอื่นๆ เช่น หลอดไฟ UV เครื่องเชื่อมโลหะ เป็นต้น
ประเภทของรังสี UV ที่ควรรู้
รังสี UV แบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ ได้แก่
รังสี UVA (ความยาวคลื่น 320-400 นาโนเมตร): สามารถทะลุผ่านผิวหนังได้ลึกที่สุด เข้าไปถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวคล้ำ และมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ รังสี UVA สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้ค่อนข้างดี จึงยังคงมีผลกระทบแม้ในวันที่ไม่มีแดดจัดหรืออยู่ในอาคาร
รังสี UVB (ความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตร): มีพลังงานสูงกว่า UVA แต่ทะลุผิวหนังได้ไม่ลึกเท่า (ถึงแค่ชั้นหนังกำพร้า) เป็นสาเหตุหลักของอาการผิวไหม้แดด ผิวแดง แสบร้อน และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง รังสี UVB ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซนในบรรยากาศ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่มาถึงพื้นโลก
รังสี UVC (ความยาวคลื่น 100-290 นาโนเมตร): เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงสุดและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากที่สุด แต่โชคดีที่รังสี UVC ทั้งหมดจะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซนและชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้ไม่สามารถทะลุมาถึงพื้นโลกได้ ยกเว้นรังสี UVC ที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเทียม เช่น หลอดฆ่าเชื้อ
ผลกระทบของรังสี UV ต่อร่างกาย
ผลกระทบของรังสี UV ต่อผิวหนัง
ทำให้เกิดผิวไหม้แดด ผิวคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง
ผลกระทบของรังสี UV ต่อดวงตา
อาจทำให้เกิดต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม และทำลายจอประสาทตาได้
ผลกระทบของรังสี UV ต่อระบบภูมิคุ้มกัน
การได้รับรังสี UV มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง
วิธีการรับมือกับรังสี UV
สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ช่วงกลางวันบ่อย เช่น การขับรถยนต์เพื่อต่อติดงาน การขับขี่รถยนต์เป็นอาชีพ รวมถึงขับรถยนต์ในการเดินทางไปทำงาน เป็นต้น ซึ่งการได้รับรังสี UV ทุกวันก็เกิดการสะสมซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการ ติดฟิล์มกรองแสง ซึ่งฟิล์มกรองแสงจะช่วยในการดูดซับรังสี UV
ประโยชน์ของการติดฟิล์มกรองแสงในการป้องกันรังสี UV
ปกป้องผิวหนัง รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น ผิวไหม้แดด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย และที่สำคัญคือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง การติดฟิล์มกรองแสงช่วยลดการสัมผัสกับรังสี UV เหล่านี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปกป้องดวงตา รังสี UV สามารถทำลายดวงตาได้ ทำให้เกิดต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม และทำลายจอประสาทตา การติดฟิล์มกรองแสงช่วยลดปริมาณรังสีที่เข้าสู่ดวงตา ทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคตาต่างๆ
ถนอมอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ รังสี UV ทำให้สีของวัสดุต่างๆ เช่น เบาะรถยนต์ คอนโซล เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ซีดจางและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การติดฟิล์มกรองแสงช่วยยืดอายุการใช้งานของสิ่งของเหล่านี้
ลดความร้อนภายใน แม้ว่ารังสี UV จะเป็นส่วนน้อยของแสงอาทิตย์ (ประมาณ 3%) แต่ฟิล์มกรองแสงส่วนใหญ่ยังช่วยลดรังสีอินฟราเรด (รังสีความร้อน) ได้ดีเยี่ยม ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์หรืออาคาร ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและประหยัดพลังงาน
ฟิล์มดี...ทำไมต้องแพง ?!!
ซึ่งการเลือกฟิล์มกรองแสงขอแนะนำเป็นฟิล์มเซลามิคที่มีความทนทานใช้งานได้ยาวนาน ไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สัญญาณ Easy Pass สัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงไม้กั้นหมู่บ้าน และยังช่วยป้องกันรังสี UV เช่น ฟิล์มกรองแสง Ray-Shield Nano Ceramic Film ที่มี คุณสมบัติป้องกัน UV ถึง 99% และค่า IR สูงถึง 95% โดยฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ไม่กีดกั้นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ฟิล์มสีมืด เมื่อมองจากภายนอก และสว่างให้ทัศนวิสัยเมื่อมองจากภายในรถยนต์ และยังรับประกันฟิล์มกรองแสงถึง 8 ปี ที่ 1 เรื่อง กระจกรถยนต์และฟิล์มกรองแสงรถยนต์ต้อง GLASSTECH เท่านั้น !!!
รีวิวฟิล์ม Ray-Shield Nano Ceramic Film
