ริวิวฟิล์ม GWM Tank 300
รถสายลุยพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย

คุณสมบัติเด่นและเทคโนโลยี
- ดีไซน์ภายนอก
- ดีไซน์แบบ Retro ผสมผสานความทันสมัยและความแข็งแกร่ง
- ไฟหน้า LED อัจฉริยะ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 60:40 และปรับเอน-พับเรียบได้
- หน้าจอความบันเทิงระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (บางรุ่นอาจเป็น 24.6 นิ้ว)
- มาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง (บางรุ่นมีระบบเสียง Amor Acoustic พร้อม Subwoofer)
- ระบบกรองอากาศ N95

- ระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ (2H, AWD, 4L)
- ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและหลังแบบไฟฟ้า (Electric Differential Lock) ในรุ่น 4WD
- ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Off-road Cruise Control)
- ระบบช่วยกลับรถในที่แคบ (Tank Turn)
เทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS ระดับ L2+)
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver Assistance Systems):
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC – Adaptive Cruise Control) พร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
- ปรับความเร็วรถตามรถคันหน้าและช่วยลดความเร็วเมื่อเข้าโค้ง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA – Traffic Jam Assist) ช่วยควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าในสภาพการจราจรติดขัด
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEB/AEBI – Automatic Emergency Braking/Automatic Emergency Braking Intersection)
- ตรวจจับวัตถุหรือคนเดินเท้าด้านหน้า และเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสียหายจากการชน หรือช่วยหลีกเลี่ยงการชน
- รวมถึงการเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบความเสี่ยงในการชนบริเวณทางแยก

- ระบบอัจฉริยะและการเชื่อมต่อ
- ระบบอัปเกรดระบบผ่านออนไลน์ (FOTA – Firmware Over-the-air) สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ของรถยนต์ได้เองผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มฟังก์ชันและประสิทธิภาพ
- GWM Application แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับรถยนต์ ช่วยให้ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้จากระยะไกล เช่น การล็อก/ปลดล็อกประตู, การตรวจสอบสถานะรถ, การสั่งเปิด/ปิดระบบปรับอากาศ
ปัจจัยสำคัญในการเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับ Tank 300 (สายลุย)
- การลดความร้อน (Heat Rejection)
- สำคัญที่สุด การขับขี่ออฟโรดมักจะอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัดและต้องเผชิญกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ฟิล์มกรองแสงที่ดีต้องมีค่าการลดความร้อนโดยรวม (TSER – Total Solar Energy Rejected) สูง เพื่อช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และประหยัดเชื้อเพลิง

2. ความชัดเจนในการมองเห็น (Optical Clarity)
- สำคัญมากสำหรับการขับขี่ออฟโรด การขับขี่ในเส้นทางออฟโรดมักต้องใช้สมาธิและทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย เช่น ช่วงเย็น กลางคืน หรือในป่าทึบ
- ความเข้มของฟิล์ม
- บานหน้า ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น 40% (แสงส่องผ่านประมาณ 35%) หรือฟิล์มใสกันร้อนสูง (VLT สูง) เพื่อให้ทัศนวิสัยชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมองเห็นสิ่งกีดขวางหรือสภาพเส้นทางที่ซับซ้อน
- รอบคัน (ประตูหน้า-หลัง) สามารถเลือกความเข้มที่มากขึ้นได้ตามความต้องการ เช่น 60% (แสงส่องผ่านประมาณ 20%) หรือ 80% (แสงส่องผ่านประมาณ 5%) เพื่อความเป็นส่วนตัวและลดความร้อน แต่ก็ควรคำนึงถึงทัศนวิสัยในการมองกระจกข้างและมองหลังด้วย
3. การกันรังสี UV (UV Protection)
ฟิล์มกรองแสงที่ดีควรกันรังสี UV ได้สูงถึง 99% หรือมากกว่า เพื่อปกป้องผิวหนังและถนอมอุปกรณ์ภายในรถไม่ให้ซีดจาง

4. ระยะเวลาการรับประกันฟิล์มกรองแสง
การรับประกันระยะเวลานาน แสดงว่ามีความมั่นใจในคุณภาพของวัสดุที่ใช้และการควบคุมกระบวนการผลิต ทำให้มั่นใจได้ว่าฟิล์มจะคงคุณสมบัติได้ดีในระยะยาว
5. ร้านที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสง
ร้านที่มีประสบการณ์มานาน มักจะมีช่างที่มีฝีมือและเทคนิคที่เชี่ยวชาญกว่า รวมถึงความพร้อมเช่น ห้องปลอดฝุ่น และการปกป้องส่วนต่างๆ ของรถ เช่น แผงประตู, เบาะนั่ง, คอนโซล, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากน้ำและสิ่งสกปรกในระหว่างกระบวนการติดตั้ง

ตัวอย่างการเลือกฟิล์มกรองแสงของ GWM Tank 300
รถยนต์ GWM Tank 300 คันนี้เลือกฟิล์มกรองแสงเซรามิกของ 3M Ceramic Ultra Clear ที่มีคุณสมบัติป้องกัน UV ถึง 99% และค่า IR สูงถึง 95% โดยฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ไม่กีดกั้นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ฟิล์มสีมืด เมื่อมองจากภายนอก และสว่างให้ทัศนวิสัยเมื่อมองจากภายในรถยนต์ และยัง รับประกันฟิล์มกรองแสงถึง 7 ปี ที่ 1 เรื่อง กระจกรถยนต์และฟิล์มกรองแสงรถยนต์ต้อง GLASSTECH เท่านั้น !!!