3 ข้อสังเกต
เจาะลึกกระจกรถยนต์แท้

รอยแตกบนกระจกรถยนต์ ไม่ใช่ถูกรอยจำเป็นต้องเปลี่ยนกระจก เพราะหากรอยแตกมีขนาดเล็กสามารถซ่อมได้ แนะนำให้ซ่อมก่อน เพราะการเปลี่ยนกระจกรถยนต์มีผลต่อระบบต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่เมื่อต้อง เปลี่ยนกระจกรถยนต์ จำเป็นต้องสังเกตถึงความน่าเชื่อถือของกระจกที่ใช้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์

1. สติ๊กเกอร์คำเตือน
เป็นคำเตือนจาก ผู้ผลิตกระจกรถยนต์ เมื่อมีการเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ให้ทำการปรับเทียบกล้องเซนเซอร์ทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนกระจกรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยเพราะการติดตั้งกระจกรถยนต์ทุกครั้งไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่ากระจกที่ติดตั้งนั้นตรงเหมือนเดิม 100% จึงจำเป็นต้อง ปรับเทียบเซนเซอร์ ระบบ ADAS



2. ผู้ผลิตกระจกรถยนต์
ผู้ผลิตกระจกรถยนต์ต้องเป็นแบรนด์ที่ผ่านการยอมรับในระดับสากล และได้รับสัมปทานจากผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง เช่น AGC Automotive, Saint-Gobain และ Fuyao โดยจะมีชื่อเหล่านี้จะอยู่บนกระจกรถยนต์ หากเป็นกระจกเทียบอาจจะมีชื่อบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ชื่อที่กล่าวมานี้ หรือไม่มีชื่อผู้ผลิตเลย

3. รหัสมาตรฐานความปลอดภัย และปีที่ผลิต
กระจกแท้จะมีการระบุรหัสมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ที่ผ่านการรับรอง เช่น
รหัสมาตรฐานยุโรป (ECE R43) จะมีสัญลักษณ์ “E” ตามด้วยตัวเลขในวงกลม เช่น E6 ซึ่งหมายถึงมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากประเทศในยุโรป
รหัสมาตรฐานสหรัฐอเมริกา (DOT) จะมีคำว่า “DOT” ตามด้วยตัวเลขและรหัสต่างๆ
รหัสประจำตัว (AS1) กระจกบานหน้าจะเป็นกระจกนิรภัยแบบลามิเนต จะระบุด้วยรหัส AS1 ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด หากเป็นกระจกบานข้างหรือบานหลังที่ใช้กระจกแบบเทมเปอร์ จะระบุด้วยรหัส AS2
และ ตรวจสอบปีที่ผลิตโดนสังเกต บนตัวกระจกจะมีรหัสที่บอกปีและเดือนที่ผลิต โดยปกติจะแสดงเป็นตัวเลขและจุด ตัวเลขอาจจะหมายถึงปีที่ผลิต ส่วนจุดอาจจะหมายถึงเดือนที่ผลิตเพื่อป้องกันการนำกระจกเก่ามาติดตั้ง

นอกจากสิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการเปลี่ยนกระจกรถยนต์เสร็จสิ้นแล้ว คือ การปรับเทียบกล้องเซนเซอร์ เพราะการติดตั้งกระจกรถยนต์ไม่มีช่างที่สามารถการันตีได้ว่า เมื่อติดตั้งแล้ว มุม หรือ องศาของกระจกรถยนต์จะตรงเหมือนกับกระจกรถยนต์เดิม เพื่อการทำงานของระบบความปลอดภัย ( ระบบ ADAS ) สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ
